วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 8.30 -12.30
วันนี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษาไปดูนิทรรศการที่พี่ปี 5 สาขาการศึกษาปฐมวัยจัดขึ้นเกี่ยวกับ "สื่อนวัตกรรมการสอน" โดยจะมีหัวข้อให้ได้ศึกษากัน คือ
1. สื่อการสอน
2. งานวิจัย
3. แผนการจัดการเรียนรู้
4. นวัตกรรมการสอน
สื่อการสอน
สื่อที่ใช้ในการสอนเด็กต้องเป็นสิ่งที่ให้เด็กเรียนรู้และพัฒนาเด็กได้ครบทั้ง
4 ด้าน ต้องเป็นสื่อที่มีความปลอดภัย เด็กสามารถจับต้องได้
และที่สำคัญคือต้องดึงดูดความสนใจของเด็ก
โดยที่ขนาดและรูปทรงก็ต้องเหมาะกับมือของเด็กและวัยของเด็กด้วย
โดยสื่อที่พี่ปี 5 ได้นำเสนอคือ สื่อการนับเลข 1-10 จากพิซซ่า
สื่อการบวกเลขจากต้นส้ม สื่อการเรียนรู้เรื่องระบบสุริยะ นิทาน
และสื่อที่เกี่ยวกับทักษะทางคณิตศาสตร์อีกมากมาย
ระบบสุริยะ |
การบวกเลข |
สื่อที่พัฒนาทักษะด้านคณิตศาสตร์ |
งานวิจัยที่รุ่นพี่ปี 5 ได้นำเสนอนี้ก็เพื่อที่จะนำเครื่องมือมาใช้กับการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก
แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้นั้นจะชี้ให้เห็นว่าในการจัดการเรียนรู้ของไม่ว่าจะเป็น
สช. กทม. สพฐ. รัฐบาลและเอกชนก็จะมีความแตกต่างกัน
มีวิธีการเขียนแผนการสอนที่แตกต่างกัน แต่จะเน้นการส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4
ด้านของเด็กเหมือนกัน
โดยให้เป็นความรู้ว่าการสอนในระดับปฐมวัยไม่ใช่การสอนที่เน้นให้เด็กอ่านออกเขียนได้
แต่เป็นการสอนที่เป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างมีจุดหมาย
โดยที่เด็กจะต้องได้พัฒนาทักษะครบทั้ง 4 ด้านคือด้านร่างการ อารมณ์-จิตใจ
สังคม และสติปัญญา และเพื่อวางรากฐานให้เด็กได้ฝึกคิด ค้นคว้าหาความรู้
มากกว่าการท่องจำ กขค หนึ่งวันอาทิตย์สีแดง เป็นต้น
แผนการจัดการเรียนรู้ |
แผนการจัดการเรียนรู้ |
นวัตกรรมการสอน
นวัตกรรมการสอนที่นำมาใช้คือ การเรียนแบบโครงการ Project Approach โดยการสอนแบบโครงการจะดำเนินการเป็น 3 ระยะ ได้แก่ระยะที่ 1 ระยะเริ่มต้น เป็นขั้นตอนที่เด็กและครูร่วมกันอภิปรายเพื่อเลือกหัวข้อเรื่องที่จะทำการสืบค้น โดยที่ต้องเป็นเรื่องที่เด็กสนใจ ประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของเด็ก
ระยะที่ 2 ระยะพัฒนา เป็นขั้นตอนของการดำเนินโคตรงการตามแผนที่กำหนด ระยะนี้ถือเป็นหัวใจของโครงการ ครูจะเป็นผู้จัดหา จัดเตรียมแหล่งข้อมูลให้เด็กสืบค้น ไม่ว่าจะเป็นของจริง หนังสือ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่การออกไปศึกษานอกสถานที่หรือนัดหมายผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรท้องถิ่น เพื่อให้เด็กทำการสืบค้นสังเกตอย่างใกล้ชิดและบันทึกสิ่งที่พบเห็น
ระยะที่ 3 ระยะสรุป เป็นระยะสรุปเหตุการณ์ รวมถึงการเตรียมการเสนอรายงานและผลที่ได้ในรูปของการจัดแสดง การค้นพบ และจัดทำสิ่งต่างๆ สนทนา เล่นบทบาทสมมติ
ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ เป็นขั้นตอนที่เด็กและครูร่วมกันอภิปรายเพื่อเลือกหัวข้อเรื่องที่จะทำการสืบค้น โดยให้หลักเกณฑ์ดังนี้
ระยะเวลาและวิธีการศึกษา
ระยะที่ 3 ดำเนินการ เป็นขั้นตอนของการดำเนินโคตรงการตามแผนที่กำหนด ระยะนี้ถือเป็นหัวใจของโครงการ ครูจะเป็นผู้จัดหา จัดเตรียมแหล่งข้อมูลให้เด็กสืบค้น ไม่ว่าจะเป็นของจริง หนังสือ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่การออกไปศึกษานอกสถานที่หรือนัดหมายผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรท้องถิ่น เพื่อให้เด็กทำการสืบค้นสังเกตอย่างใกล้ชิดและบันทึกสิ่งที่พบเห็น อาจมีการเขียนภาพที่เกิดจากการสังเกต จัดทำกราฟ แผนภูมิไดอะแกรม หรือสร้างแบบต่างๆ สำรวจ คาดคะเน มีการอภิปราย เล่นบทบาทสมมติเพื่อแสดงความเข้าใจในความรู้ใหม่ที่ได้
ระยะที่ 4 สรุปผลโครงการ เป็นระยะสรุปเหตุการณ์ รวมถึงการเตรียมการเสนอรายงานและผลที่ได้ในรูปของการจัดแสดง การค้นพบ และจัดทำสิ่งต่างๆ สนทนา เล่นบทบาทสมมติ หรือจัดนำชมสิ่งที่ได้จากการก่อสร้าง ครูจะจัดให้เด็กได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนเรียนรู้กับผู้อื่น เด็กสามารถช่วยกันเล่าเรื่องการทำโครงการให้ผู้อื่นฟัง โดยจัดแสดงสิ่งที่เป็นจุดเด่นให้เพื่อนในชั้นเรียนอื่น ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และ ผู้บริหารได้เห็น ครูจะช่วยเด็กเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาแสดง ซึ่งการทำเช่นนี้เท่ากับช่วยให้เด็กทบทวนและประเมินโครงการทั้งหมด ครูอาจเสนอให้เด็กได้จินตนาการความรู้ใหม่ที่ได้ผ่านทางศิลปะ ทางละคร สุดท้ายครูนำความคิดและความสนใจของเด็กไปสู่การสรุปโครงการ และอาจนำไปสู่หัวเรื่องใหม่ของโครงการต่อไป
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/499448
- เป็นหัวข้อที่เด็กทุกคนหรือเด็กส่วนใหญ่ของกลุ่มสนใจ สัมพันธ์กับประสบการณ์ชีวิตประจำวันของเด็ก
- เป็นทักษะพื้นฐานของภาษา คณิตศาสตร์ และสามารถบูรณาการวิทยาศาสตร์และศิลปะเข้าด้วยได้
- เป็นเรื่องทีเด็กมีโอกาสร่วมมือกันทำงาน ลงมือปฏิบัติ นำมาเล่นสมมติและให้ทักษะต่าง ๆ จากการเรียนรู้ได้
ระยะเวลาและวิธีการศึกษา
ระยะที่ 3 ดำเนินการ เป็นขั้นตอนของการดำเนินโคตรงการตามแผนที่กำหนด ระยะนี้ถือเป็นหัวใจของโครงการ ครูจะเป็นผู้จัดหา จัดเตรียมแหล่งข้อมูลให้เด็กสืบค้น ไม่ว่าจะเป็นของจริง หนังสือ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่การออกไปศึกษานอกสถานที่หรือนัดหมายผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรท้องถิ่น เพื่อให้เด็กทำการสืบค้นสังเกตอย่างใกล้ชิดและบันทึกสิ่งที่พบเห็น อาจมีการเขียนภาพที่เกิดจากการสังเกต จัดทำกราฟ แผนภูมิไดอะแกรม หรือสร้างแบบต่างๆ สำรวจ คาดคะเน มีการอภิปราย เล่นบทบาทสมมติเพื่อแสดงความเข้าใจในความรู้ใหม่ที่ได้
ระยะที่ 4 สรุปผลโครงการ เป็นระยะสรุปเหตุการณ์ รวมถึงการเตรียมการเสนอรายงานและผลที่ได้ในรูปของการจัดแสดง การค้นพบ และจัดทำสิ่งต่างๆ สนทนา เล่นบทบาทสมมติ หรือจัดนำชมสิ่งที่ได้จากการก่อสร้าง ครูจะจัดให้เด็กได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนเรียนรู้กับผู้อื่น เด็กสามารถช่วยกันเล่าเรื่องการทำโครงการให้ผู้อื่นฟัง โดยจัดแสดงสิ่งที่เป็นจุดเด่นให้เพื่อนในชั้นเรียนอื่น ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และ ผู้บริหารได้เห็น ครูจะช่วยเด็กเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาแสดง ซึ่งการทำเช่นนี้เท่ากับช่วยให้เด็กทบทวนและประเมินโครงการทั้งหมด ครูอาจเสนอให้เด็กได้จินตนาการความรู้ใหม่ที่ได้ผ่านทางศิลปะ ทางละคร สุดท้ายครูนำความคิดและความสนใจของเด็กไปสู่การสรุปโครงการ และอาจนำไปสู่หัวเรื่องใหม่ของโครงการต่อไป
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/499448
เป็นขั้นตอนที่เด็กและครูร่วมกันอภิปรายเพื่อเลือกหัวข้อเรื่องที่จะทำการสืบค้น โดยให้หลักเกณฑ์ดังนี้
ระยะเวลาและวิธีการศึกษา
ระยะที่ 3 ดำเนินการ เป็นขั้นตอนของการดำเนินโคตรงการตามแผนที่กำหนด ระยะนี้ถือเป็นหัวใจของโครงการ ครูจะเป็นผู้จัดหา จัดเตรียมแหล่งข้อมูลให้เด็กสืบค้น ไม่ว่าจะเป็นของจริง หนังสือ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่การออกไปศึกษานอกสถานที่หรือนัดหมายผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรท้องถิ่น เพื่อให้เด็กทำการสืบค้นสังเกตอย่างใกล้ชิดและบันทึกสิ่งที่พบเห็น อาจมีการเขียนภาพที่เกิดจากการสังเกต จัดทำกราฟ แผนภูมิไดอะแกรม หรือสร้างแบบต่างๆ สำรวจ คาดคะเน มีการอภิปราย เล่นบทบาทสมมติเพื่อแสดงความเข้าใจในความรู้ใหม่ที่ได้
ระยะที่ 4 สรุปผลโครงการ เป็นระยะสรุปเหตุการณ์ รวมถึงการเตรียมการเสนอรายงานและผลที่ได้ในรูปของการจัดแสดง การค้นพบ และจัดทำสิ่งต่างๆ สนทนา เล่นบทบาทสมมติ หรือจัดนำชมสิ่งที่ได้จากการก่อสร้าง ครูจะจัดให้เด็กได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนเรียนรู้กับผู้อื่น เด็กสามารถช่วยกันเล่าเรื่องการทำโครงการให้ผู้อื่นฟัง โดยจัดแสดงสิ่งที่เป็นจุดเด่นให้เพื่อนในชั้นเรียนอื่น ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และ ผู้บริหารได้เห็น ครูจะช่วยเด็กเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาแสดง ซึ่งการทำเช่นนี้เท่ากับช่วยให้เด็กทบทวนและประเมินโครงการทั้งหมด ครูอาจเสนอให้เด็กได้จินตนาการความรู้ใหม่ที่ได้ผ่านทางศิลปะ ทางละคร สุดท้ายครูนำความคิดและความสนใจของเด็กไปสู่การสรุปโครงการ และอาจนำไปสู่หัวเรื่องใหม่ของโครงการต่อไป
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/499448
- เป็นหัวข้อที่เด็กทุกคนหรือเด็กส่วนใหญ่ของกลุ่มสนใจ สัมพันธ์กับประสบการณ์ชีวิตประจำวันของเด็ก
- เป็นทักษะพื้นฐานของภาษา คณิตศาสตร์ และสามารถบูรณาการวิทยาศาสตร์และศิลปะเข้าด้วยได้
- เป็นเรื่องทีเด็กมีโอกาสร่วมมือกันทำงาน ลงมือปฏิบัติ นำมาเล่นสมมติและให้ทักษะต่าง ๆ จากการเรียนรู้ได้
ระยะเวลาและวิธีการศึกษา
ระยะที่ 3 ดำเนินการ เป็นขั้นตอนของการดำเนินโคตรงการตามแผนที่กำหนด ระยะนี้ถือเป็นหัวใจของโครงการ ครูจะเป็นผู้จัดหา จัดเตรียมแหล่งข้อมูลให้เด็กสืบค้น ไม่ว่าจะเป็นของจริง หนังสือ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่การออกไปศึกษานอกสถานที่หรือนัดหมายผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรท้องถิ่น เพื่อให้เด็กทำการสืบค้นสังเกตอย่างใกล้ชิดและบันทึกสิ่งที่พบเห็น อาจมีการเขียนภาพที่เกิดจากการสังเกต จัดทำกราฟ แผนภูมิไดอะแกรม หรือสร้างแบบต่างๆ สำรวจ คาดคะเน มีการอภิปราย เล่นบทบาทสมมติเพื่อแสดงความเข้าใจในความรู้ใหม่ที่ได้
ระยะที่ 4 สรุปผลโครงการ เป็นระยะสรุปเหตุการณ์ รวมถึงการเตรียมการเสนอรายงานและผลที่ได้ในรูปของการจัดแสดง การค้นพบ และจัดทำสิ่งต่างๆ สนทนา เล่นบทบาทสมมติ หรือจัดนำชมสิ่งที่ได้จากการก่อสร้าง ครูจะจัดให้เด็กได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนเรียนรู้กับผู้อื่น เด็กสามารถช่วยกันเล่าเรื่องการทำโครงการให้ผู้อื่นฟัง โดยจัดแสดงสิ่งที่เป็นจุดเด่นให้เพื่อนในชั้นเรียนอื่น ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และ ผู้บริหารได้เห็น ครูจะช่วยเด็กเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาแสดง ซึ่งการทำเช่นนี้เท่ากับช่วยให้เด็กทบทวนและประเมินโครงการทั้งหมด ครูอาจเสนอให้เด็กได้จินตนาการความรู้ใหม่ที่ได้ผ่านทางศิลปะ ทางละคร สุดท้ายครูนำความคิดและความสนใจของเด็กไปสู่การสรุปโครงการ และอาจนำไปสู่หัวเรื่องใหม่ของโครงการต่อไป
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/499448
ทั้งนี้ยังได้นำหลักการสอนแบบ STEM เข้ามาช่วยในการสอนให้เด็กเกิดการเรียนรู้ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดย STEMนั้นจะประกอบไปด้วย
Science (วิทยาศาสตร์)
Technology (เทคโนโลยี)
Engineering (วิศวกรรมศาสตร์)
Mathematics (คณิตศาสตร์)
สิ่งที่ได้รับ
1. ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันกับเพื่อนในชั้นและรุ่นพี่สาขาการศึกษาปฐมวัยชั้นปีที่ 52. ได้เห็นถึงกระบวนการในการสอนมากยิ่งขึ้น
3. ความรู้ในวันนี้เป็นแนวทางให้เรานำไปจัดกิจกรรมการสอนหรือการจัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับเด็กปฐมวัยมากยิ่งขึ้น
การประเมิน
ตนเอง : ตั้งใจศึกษาดูงาน
เพื่อน : ตั้งใจฟังรุ่นพี่นำเสนอ บางคนมีการจดบันทึก ถ่ายรูป
อาจารย์ :ขอบคุณอาจารย์ที่นำนักศึกษามาศึกษาดูงาน ทำให้นักศึกษาได้เห็นการจัดการเรียนแบบของจริงและได้รู้อะไรต่างๆ อีกมากมาย
ตนเอง : ตั้งใจศึกษาดูงาน
เพื่อน : ตั้งใจฟังรุ่นพี่นำเสนอ บางคนมีการจดบันทึก ถ่ายรูป
อาจารย์ :ขอบคุณอาจารย์ที่นำนักศึกษามาศึกษาดูงาน ทำให้นักศึกษาได้เห็นการจัดการเรียนแบบของจริงและได้รู้อะไรต่างๆ อีกมากมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น